วันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

สวัสดีปี 2563

นานแล้วที่ไม่ได้มาอัพเดทชีวิต หรือมีเรื่องเล่าใน blog ของตัวเอง เพราะใคร ๆ ก็ให้ความสนใจกับ facebook มากกว่า

วันนี้ขอย้อนวันวาน เมื่อ 14 ปีที่แล้ว ชีวิตครูเริ่มเข้าสู่วิถีของโยคะ ( พ.ศ.2549) แบบจับพลัดจับผลูก็ว่าได้

วันนึงยืนแปรงฟัน แล้วแปรงสีฟันหล่นจากมือ เพราะมือไม่มีแรงจับด้ามแปรง ทำงานก็จับปากกาไม่ได้ แขนมันล้า จริงๆ ก่อนหน้านี้ก็มีอาการล้าที่แขน อาศัยการนวดบ้าง การออกกำลังกาย (ว่ายน้ำ) ก็ไม่สามารถวาดแขนได้เหมือนเก่า

มีความเครียดเกิดขึ้นแน่นอน ตอนนั้นลาออกจากงานประจำ หวังว่าจะเรียนปริญญาโทต่อ แต่เรียนไม่ได้เพราะจับปากกาเขียนหนังสือไม่ได้ ....เครียดสิ.....

สิ่งแรกที่เริ่มทำคือ หัดเขียนหนังสือ และทำอะไร ๆ ด้วยมือซ้ายแทนมือขวา จนสามารถเขียนหนัังสือมือซ้ายได้ แต่ไม่ได้คล่องเท่ามือขวา  เลยต้องเก็บเรื่องเรียนต่อไปโดยปริยาย

ช่วงนั้นอินเตอร์เน็ท ยังเป็นแบบ 56k ต่อกับสายโทรศัพท์บ้าน นั่งหาข้อมูลเจอว่า การฝึกโยคะอาจช่วยได้ หา cd มาได้แผ่นนึง แล้วหัดตาม เหมือนจะดีขึ้นบ้าง

ค้นไปค้นมา เจอว่ามีสอนเป็นครูโยคะด้วย ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ต้องขึ้นกรุงเทพ ไปเรียนทั้งที เรียนเป็นครูไปเลยดีกว่า

ที่ "สุนีย์โยคะ" สมัยนั้น  ที่สอนเป็นครูโยคะไม่ได้หลากหลายสำนักเหมืือน พ.ศ.นี้ (2563)

อ.สุนีย์ในวัย 70 กว่าในตอนนั้น ผมสีดอกเลา ตัวตรง เสียงดังฟังชัด ศิษย์ของกูรูโยคะคนแรกของเมืองไทย คือ อ.ชด หัศบำเรอ ท่านเป็นคนที่เอาโยคะมาสอนในเมืองไทยคนแรก

ตอนแรกที่เรียน ต้องบอกว่าเริ่มจาก ศูนย์ กันเลย ไม่มีความรู้อะไรเกี่ยวกับโยคะเลย แต่ไปเรียน ทุกวัน ก่อนที่จะสอนคนอื่น สิ่งแรกคือต้องทำท่านั้นๆ ให้ได้ก่อน แล้วถึงจะเริ่มสอนได้ บรรยายได้ จัดท่า่ให้คนอื่นได้

ความเปลี่ยนแปลงเริ่มเกิด หลังจากเริ่มฝึกได้แค่ 2 สัปดาห์ กางเกงตัวที่คับ สามารถใส่ได้อย่างสบาย รู้สึกตื่นเต้นกับผลที่ได้รับ  คือ  ก้นเราเล็กลง จากสะโพกดินระเบิด 39 นิ้ว ลดลงมา ตอนนี้พอดูดี

อีกหนึ่งความเปลี่ยนแปลง คือ รอบของประจำเดือนที่มาเป๊ะ มากขึ้น ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้หญิง ปัญหาวันนั้นของเดือน ไม่ใช่เรื่องเล็กเลย

น้ำหนักตัวเริ่มลดลงเมื่อกลับมาเปิดสตูดิโอของตัวเอง ได้ประมาณ 6 เดือน  และน้ำหนักลงอย่างมากเมื่อลองกินอาหารแนวธรรมชาติ เน้นการทานผักผลไม้ ทานเนื้อสัตว์น้อยมาก  จากน้ำหนัก  52 ในตอนแรก เหลือ 44 จนรู้สึกว่า ผอมเกินพอดี จึงได้กลับมากินอาหารเป็นเนื้อสัตว์เพิ่มขึ้น

ถึงตอนนี้ 13 ปีผ่านมา กับวิถีแห่งโยคะ น้ำหนักตัวไม่ได้ต่างกับก่อนฝึกมากนัก ตอนนี้น้ำหนักอยู่ที่  50-52 กก. แต่ความกระชับของร่างกาย มีมากขึ้น เลยทำให้ดูตัวเล็ก หรือผอมกว่าน้ำหนักที่เท่ากันแต่ไม่ได้ออกกำลังกาย  ตามทฤษฏี การปั้นข้าวเหนียว คือ ในปริมาณของข้าวเหนียวที่ตักมาเท่ากัน  แบบที่ 1 ตักแล้วใส่จานเลย เราจะได้ข้าวเหนียวที่กระจายเต็มจาน ส่วนแบบที่ 2 ตักแล้วปั้นให้เป็นก้อนแน่น ๆ แน่นอนว่า อย่างหลังจะดูน้อยกว่า  เปรียบได้กับร่างกายเราที่  ไม่ออกกำลังกายจะได้ข้าวเหนียวแบบที่ 1 และร่างกายที่ออกกำลังกายก็จะได้รูปร่างที่ผ่านการปั้นมาแล้วเหมือนข้าวเหนียวแบบที่ 2

ใครอยากปั้นตัวเอง ก็หันมาออกกำลังกายกันค่ะ   รักอะไรทำสิ่งนั้นเลยค่ะ ไม่โยคะก็ไม่ว่ากัน

อยากให้ทุกคนหันมาใส่ใจตัวเอง มาก ๆ ค่ะ

(กุมภาพันธ์ 63 ตอนที่กระแส โควิด 19 กำลังแพร่ระบาด)